บูเช็คเทียน นางพญาบัลลังก์ทอง
ชื่อจีน : 武媚娘传奇
ชื่ออังกฤษ : The empress of Chaina
ชื่อไทย : บูเช็คเทียน นางพญาบัลลังก์ทอง
ออนแอร์ : 21 ธันวาคม 2014
ในปีแรกของรัชศกเสินหลง (ปี ค.ศ. 705 หรือ พ.ศ. 1248 ซึ่งเป็นปีที่พระนางบูเช็คเทียนสวรรคต) องค์ชายหลี่เสี่ยน* (องค์รัชทายาท) ถูกอัครมหาเสนาบดี "จางเจี่ยนจือ" และเหล่าขุนนางบีบให้ร่วมมือทำรัฐประหารพระนางบูเช็คเทียน โดยเริ่มจากการสังหารสองพี่น้องตระกูลจาง (จางอี้จือและจางชางจง - ทั้งคู่เป็นขุนนางและคนรักใหม่ของพระนางบูเช็คเทียนจึงเรืองอำนาจในราชสำนักมากขึ้นเรื่อยๆ) ก่อนปิดล้อมตำหนักฉางเซิงเตี้ยนอันเป็นที่ประทับของพระนางบูเช็คเทียน เพื่อบีบให้พระนางบูเช็คเทียนสละราชสมบัติและมอบพระราชบัลลังก์คืนให้แก่องค์ชายหลี่เสี่ยนซึ่งเป็นเจ้าของเดิม (เดิมบัลลังก์เป็นของคนสกุลหลี่ซึ่งเป็นสายเลือดของราชวงศ์ถัง และองค์ชายหลี่เสี่ยนก็เคยขึ้นครองบัลลังก์เป็นเวลาสั้นๆ)
ครั้นเมื่อเผชิญหน้ากับพระราชมารดา องค์ชายหลี่เสี่ยนกลับเกรงกลัวพระบารมีจึงรีบเผ่นออกจากตำหนัก อัครมหาเสนาบดีจางและพวกเห็นดังนั้นจึงหมดหวังและยอมจำนนแต่โดยดี ถึงกระนั้นพระนางบูเช็คเทียนก็ไม่คิดลงโทษผู้ใด เพราะความจริงแล้วพระองค์เองก็ตั้งใจเอาไว้ว่าจะคืนบัลลังก์ให้แก่คนสกุลหลี่และเฝ้ารอวันนี้มานาน ในที่สุดพระองค์ก็สละราชสมบัติและมอบบัลลังก์ให้แก่องค์ชายหลี่เสี่ยน ทำให้ราชวงศ์ (อู่) โจวที่ทรงก่อตั้งมานาน 14 ปีสิ้นสุดลง ขณะที่ราชวงศ์ถังได้ถูกสถาปนาขึ้นใหม่อีกครั้ง
ย้อนกลับไปในปีที่ 11 ของรัชศกเจินกวน (ปี ค.ศ. 637 หรือ พ.ศ. 1180) เด็กสาวสกุลอู่จากเมืองลี่โจว นามว่า "อู่หรูอี้" ถูกส่งเข้าวังไปเป็นหนึ่งในพระสนมของจักรพรรดิถังไท่จงขณะมีอายุเพียง 14 ปี (ในตอนนั้นจักรพรรดิถังไท่จงทรงมีพระชนมายุ 39 พรรษา) โดยเธอและเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกันอีกหลายคนได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็น "ไฉเหริน" (สนมขั้น 5 จากทั้งหมด 9 ขั้น) ด้วยความที่อู่หรูอี้เป็นเด็กสาวใสซื่อ ฉลาดหลักแหลม และมีความสามารถรอบตัว จักรพรรดิถังไท่จงจึงรู้สึกสนพระทัยและตกหลุมรักเธอในที่สุด แต่นั่นก็นำมาซึ่งความอิจฉาริษยาทำให้เธอมักถูกคนกลั่นแกล้ง ปองร้าย และใส่ความบ่อยครั้ง เธอโดนสารพัดไม่ว่าจะเป็นการถูกกล่าวหาว่าเป็นขโมย ฆาตกร หรือแม้กระทั่งคิดก่อกบฎ แต่เธอก็เอาตัวรอดมาได้ด้วยไหวพริบและสติปัญญา
แม้จะโปรดปรานอู่หรูอี้ (ภายหลังจักรพรรดิถังไท่จงตั้งชื่อให้เธอใหม่ว่า "อู่เม่ยเหนียง") เพียงใด แต่จักรพรรดิถังไท่จงไม่ยอมเก็บเธอไว้ใกล้ตัวเพราะเชื่อที่หมอดูทำนายว่าสตรีสกุลอู่จะเป็นภัยต่อราชวงศ์ถัง หลังจักรพรรดิถังไท่จงสวรรคต อู่เม่ยเหนียงซึ่งไม่มีพระโอรสและธิดาได้ถูกส่งตัวไปบวชตลอดชีวิตตามธรรมเนียมที่วัดก่านเย่ แต่องค์ชายรัชทายาท "หลี่จื้อ" (จักรพรรดิถังเกาจง) ซึ่งขึ้นครองบัลลังก์ต่อจากพระบิดาและหลงรักอู่เม่ยเหนียงมาตั้งแต่เด็กๆ ได้นำตัวเธอกลับวังและแต่งตั้งให้เป็นถึง "เจาอี๋" (สนมขั้น 2) ระหว่างนั้นเธอได้เรียนรู้เรื่องหลักการปกครองและการเป็นฮ่องเต้ที่ดี จึงนำความรู้มาช่วยจักรพรรดิถังเกาจงทวงคืนอำนาจจากขุนนาง ทั้งยังเดินหน้ากำจัดเสี้ยนหนาม และผลักดันตนเองจนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งฮองเฮา จากนั้นก็ปกครองบ้านเมืองร่วมกับพระสวามีมาโดยตลอด หลังจักรพรรดิถังเกาจงสวรรคต เธอจึงเป็นทั้งไทเฮาและผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน (แม้พระโอรสจะขึ้นครองบัลลังก์แต่อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินทั้งหมดอยู่ในมือของเธอ) จากนั้นก็ขึ้นครองบัลลังก์เป็นกษัตริย์หญิงพระองค์แรกและพระองค์เดียวแห่งแผ่นดินจีนขณะมีพระชมน์มายุ 67 พรรษา
นักแสดงนำ
ฟ่านปิงปิง รับบท บูเช็คเทียน
จางเฟิงอี้ รับบท หลี่ซื่อหมิน
หลี่จื่อถิง รับบท หลี่จื่อ
เรื่องนี้น่าติดตามมากเลย
ตอบลบดีๆๆๆ
ตอบลบ